แหล่งท่องเที่ยว
คลองสังเน่ห์

“ตะกั่วป่า” หนึ่งในเมืองที่เคยได้ชื่อว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมากในอดีต อีกทั้งยังร่ำรวยไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย จากย่านตลาดใหญ่ (เมืองเก่าตะกั่วป่า) ที่เราเดินชมเมืองเก่า ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่น ช็อปปิ้งบนถนนคนเดินกันไปแล้ว เช้าอีกวันเราขอย้ายไปเที่ยวในอีกบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าเมืองตะกั่วป่าจะเป็นเมืองชายทะเล แต่ก็โอบล้อมไปด้วยขุนเขา แถมยังมีผืนป่าเล็กๆ ที่น่าสนใจยิ่งนัก ขนาดที่ได้รับการขนานนามเอาไว้ว่าเป็น “Little Amazon เมืองไทย” เลยทีเดียว

      เราเลือกจองเรือพายนำเที่ยวในรอบที่เช้าที่สุดของวันด้วยความหวังว่าจะได้เห็น “นกเงือก” กับเขาบ้าง แต่แล้วก็ต้องอดใจรอให้น้ำขึ้นกันอีกพักใหญ่ เพราะเช้านี้น้ำแห้งเกินกว่าที่เรือจะออกได้ ระหว่างนี้เราก็ได้พูดคุยกับลุงๆ ป้าๆ ในพื้นที่เกี่ยวกับ Little Amazon แห่งนี้ไปพลางๆ ก่อน ลำคลองที่เรากำลังจะได้ล่องเรือเที่ยวชมสายนี้มีชื่อว่า “คลองสังเน่ห์” คลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจากเขาบางเต่าก่อนจะไปสิ้นสุดที่แม่น้ำตะกั่วป่า การท่องเที่ยวในเชิงนิเวศน์แบบนี้มักจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่าง ชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ คนไทยเองเสียอีกที่ให้ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้น้อยเสียจนน่าเสียดาย โชคดีที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าเล็กๆ แห่งนี้อย่างเหนียวแน่น เพื่อให้รอดพ้นจากกระแสนายทุนที่โหมกระหน่ำ คุยกันไปเพลินๆ แป๊บเดียวปริมาณน้ำในคลองก็เริ่มมากพอที่เราจะล่องเรือกันได้แล้ว

Good to Know-การล่องเรือเที่ยวคลองสังเน่ห์ เราแนะนำให้มากันแต่เช้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการพบเห็นครอบครัวนกเงือกที่บินมาหาอาหารให้มากขึ้น บริการเรือนำเที่ยวคลองสังเน่ห์มีเรือให้เลือกทั้ง เรือคายัคพร้อมคนพาย และเรือยนต์ ซึ่งนั่งได้ลำละ 2 คน  แนะนำให้ใช้บริการเรือคายัคมากกว่าเรือยนต์ เพราะเราจะได้ล่องเรือไปอย่างเงียบๆ และได้เห็นนกมากชนิดกว่าการนั่งเรือยนต์ซึ่งมีเสียงดังกว่า  ถ้าหากต้องการล่องเรือเที่ยวคลองสังเน่ห์ ควรจองรอบเรือไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ติดต่อได้ที่ โทร. 08 6953 1789, 0 7642 4176

จากช่วงต้นๆ ของเส้นทางที่เรายังพอเห็นบ้านเรือนริมคลองอยู่บ้าง แต่พอผ่านคุ้งน้ำแรกมาแล้วสองฝั่งคลองก็เริ่มเต็มไปด้วยต้นไทรและไม้ชายน้ำ ที่มีรากเกาะเกี่ยวกันหนาแน่นขึ้นอย่างถนัดตา ระหว่างที่เรือค่อยๆ พายไป เราก็รู้สึกว่าผืนป่าแห่งนี้มีความน่าสนใจเกินกว่าที่ใครจะนึกถึง ตลอดทางจะเต็มไปด้วยต้นไทรขนาดยักษ์ที่มีอายุนับร้อยๆ ปี ที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปจนไม่รู้ว่าต้นไหนเป็นต้นไหน จำนวนรากของต้นไทรที่ทิ้งตัวลงสู่สายน้ำ สลับกับป่าต้นจาก ที่รกครึ้มก็ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมคล้ายป่าดงดิบในอเมซอน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Little Amazon” นั่นเองท่ามกลางป่าต้นไทรยักษ์และป่าจาก เรายังเห็นต้นตีนเป็ดน้ำ หรือต้นสังหลาขึ้น แทรกตัวอยู่ทั่วไป และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่านั่นเองที่ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งอาหารอัน โอชะของนกหลากหลายชนิด แมลง กระรอก กระแต ไปจนถึงปลาเล็กปลาน้อยที่ได้อาศัยผลไทรสุกๆ ที่ตกลงน้ำเป็นอาหารด้วย และอย่างที่บอกว่าถ้าใครโชคดีอาจจะได้เห็น “นกเงือก” บินมาหาอาหารตอนเช้าๆ ด้วย ซึ่งนกเงือกนี่เองที่เป็นเหมือนดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่า ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของป่าริมคลองสังเน่ห์นี้จึงมีความเกี่ยวพันกันในระบบนิเวศน์อย่างรอบด้าน

นอกจากเราจะได้ชมนก ชมไม้ระหว่างที่เรือไหลเอื่อยไปตามน้ำแล้ว อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นที่สุดขณะล่องเรือลอดผ่านกิ่งก้านของต้นไทรก็คือ การสอดส่ายสายตามองหา “งู” อันเป็นเสน่ห์แห่งความสมบูรณ์ของป่า ถึงแม้ครั้งนี้เราจะไม่ได้เห็นนกเงือก แต่เราก็ได้เห็นทั้ง “งูเขียว” และ “งูปล้องทอง” ตัว เขื่องนอนขดตัวอยู่บนกิ่งไม้เหนือหัวเราเน้นๆ ซึ่งเจ้างูเงี้ยวเขี้ยวขอเหล่านี้จัดว่าเป็นพระรองของคลองสังเน่ห์เลยที เดียว ช่วงกลางวันแบบนี้จะเป็นเวลาที่บรรดางูๆ มานอนขดนิ่งรอเวลาออกหากินในตอนกลางคืน เราแหงนคอชมวิวเพลินๆ จนเรือมาสุดที่ปากคลองบริเวณที่จรดกับแม่น้ำตะกั่วป่า ซึ่งเป็นจุดที่คนเรือเริ่มกลับลำเรือพาเราไปส่งยังจุดเริ่มต้น ขากลับเราค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศของป่าโบราณเอาไว้ให้เต็มที่ พยายามเงี่ยหูฟังเสียงนก ฟังเสียงน้ำ และฟังเสียงป่า ถึงแม้จะเป็นเส้นทางเดียวกันกับขามาแต่ก็ยังคงมีอะไรให้เราได้ดูได้ชมมาก มายอยู่เหมือนเดิม ด้วยเวลาชั่วโมงกว่าๆ ในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในมุมเล็กๆ ของเมืองไทย ยังคงมีอะไรอีกมากมายให้เราได้ค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของความงดงามทาง ธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราควรจะเรียนรู้วิธีที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลบ้างไม่มากก็ น้อย

ที่อยู่        :               ชุมชนคลองสังเน่ห์ หมู่ 9 ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

GPS       :               8.876410, 98.342127

เบอร์ติดต่อ             :               08 6953 1789, 0 7642 4176

เวลาทำการ            :               ทุกวันตั้งแต่ 9.00-17.00 น.

ค่าธรรมเนียม         :              

ค่าเรือพายนำเที่ยว ลำละ 500 บาท (นั่งได้ 2 คน)

เรือยนต์ลำละ 800 บาท (นั่งได้ 2 คน)

ช่วงเวลาแนะนำ    :               ช่วงเช้าๆ เพราะอากาศยังไม่ร้อนมากนัก และถ้าโชคดีเราอาจจะได้เห็นนกเงือกที่ออกมาหากินตามธรรมชาติด้วย

ไฮไลท์     :               ความสมบูรณ์ของพื้นที่ในคลองสังเน่ห์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไทรโบราณอายุนับร้อยปี ต้นตีนเป็ดน้ำ และต้นจากเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของงู และนกนานาชนิด บรรยากาศโดยรวมคล้ายคลึงกับป่าอเมซอน

กิจกรรม  :               ล่องเรือชมความงามของธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ทั้งงูเขียว งูปล้องทอง งูเหลือม นกเงือก นกกระสา และนกอีกหลายชนิดที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ